โซ่ความเย็น (Cold Chain) เป็นการบริหารจัดการกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเก็บเกี่ยว การขนส่ง การเก็บรักษา การกระจายสินค้า และการขายของสินค้า รวมถึงการใช้เครื่องมือ อุปกรณ์และการปฏิบัติ เพื่อให้สินค้าคงความสดและมีคุณภาพให้ยาวนานที่สุดในเงื่อนไขที่สภาพของ อุณหภูมิ ที่ถูกต้องและเหมาะสมต่อการเก็บรักษาในแต่ละกระบวนการผลิต (R L Fuller, 1998)
อาหาร ยาและเวชภัณฑ์ เป็น 2 ใน 4 ปัจจัยหลักในการ ดำรงชีวิตของมนุษย์ และทวีความสำคัญมากยิ่งขึ้นในยุค ที่ประชากรโลกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สภาพ ภูมิอากาศของโลกมีความแปรปรวนสูงและส่งผลกระทบ ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลง องค์การอาหารและการเกษตร แห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations หรือ FAO) ประมาณการว่า 1 ใน 3 ของ การผลิตอาหารของโลก จะเกิดการสูญเสียเนื่องจากการเน่าเสีย ง่ายหรือเกิดการสูญเปล่า (Food loss and Food waste) ก่อนที่จะถึงผู้บริโภคกว่า 1.3 พันล้านตันต่อปี ทำให้สิ้นเปลือง แรงงาน น้ำ พลังงาน ดิน และปัจจัยการผลิตอื่น ๆ (FAO, 2554) รวมทั้งสร้างความสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจและความมั่นคง ทางอาหาร จากรายงาน Food wastage footprint & Climate Change ของ FAO ระบุว่า ในภูมิภาคที่มีรายได้สูง ปริมาณอาหารที่ สูญเปล่าจะสูงขึ้นในขั้นตอนการแปรรูป การกระจาย และการบริโภค เนื่องจากมีการเลือกสินค้าตามรูปลักษณ์และความสมบูรณ์
ในขณะที่ในประเทศที่มีรายได้ต่ำ การสูญเสียอาหารจะเกิดขึ้นในขั้นตอนการผลิตและหลังการเก็บเกี่ยว เนื่องจาก มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในระดับต่ำ ขาดความรู้ในการจัดเก็บ และการจัดการอาหารที่เหมาะสม ร่วมกับมีสภาพภูมิอากาศ ที่ไม่เอื้ออำนวยทำให้อาหารเน่าเสียได้ ดังนั้น จะเห็นได้ว่า การสูญเสียเหล่านี้เกี่ยวข้องกับกระบวนการโลจิสติกส์โซ่ความเย็น นอกจากนี้ ในสภาวการณ์ที่โลกยังคงเผชิญกับการแพร่ ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รวมถึงโรคอุบัติใหม่ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และการเติบโตของอุตสาหกรรมยา ที่เติบโตขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงสู่สังคมผู้สูงวัย นอกเหนือจาก การป้องกันการสูญเสียที่จะเกิดขึ้นในโซ่อุปทานแล้ว ยังต้อง คำนึงถึงคุณภาพและความปลอดภัยในขั้นตอนต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการจัดส่งวัคซีนป้องกันโควิด-19 รวมถึงยาและเวชภัณฑ์ ด้วยกระบวนการโลจิสติกส์โซ่ความเย็นที่มีประสิทธิภาพสูง
ดังนั้น การพัฒนาโซ่ความเย็นให้มีประสิทธิภาพจึงช่วย ลดการสูญเสียและรักษาสภาพทางกายภาพและทางเคมีของ สินค้าให้คงความสดใหม่ รักษาคุณภาพ ตลอดจนปราศจาก เชื้อโรคปนเปื้อนตลอดโซ่อุปทาน โดยจะต้องคำนึงถึงการสร้าง สภาวะด้านอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์ อายุการเก็บรักษาของ สินค้า (Shelf life) และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมตามแต่ละ ประเภทสินค้า เช่นเดียวกันกับโซ่อุปทานของวัคซีน ซึ่งองค์การ อนามัยโลก (World Health Organization หรือ WHO) ระบุว่า วัคซีนทั้งหมดมีความไวต่อความร้อนและจำเป็นต้องมีการจัดเก็บ และการแจกจ่ายภายในโซ่ความเย็นที่มีประสิทธิภาพ และให้ ความสำคัญกับการประเมินระบบโซ่ความเย็นและระบบ โลจิสติกส์ เพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพของโซ่ความเย็น ทำให้คาดการณ์ได้ว่าโซ่ความเย็นจะทวีความสำคัญในระบบ โลจิสติกส์และโซ่อุปทานของโลกมากขึ้น
บทความที่เกี่ยวข้อง: ความเป็นมาของ INCOTERM 2010, กระบวนการโลจิสติกส์โซ่ความเย็น (Cold Chain Logistics), ปัจจัยของโซ่ความเย็น (Cold Chain Elements), การเพิ่มประสิทธิภาพ โลจิสติกส์โซ่ความเย็น
Comments